เปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่ดี รวมทุกเรื่องต้องรู้ไว้ที่นี่แล้ว!

Last updated: 10 ก.ย. 2567  |  2181 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่

การเปิดร้านเบเกอรี่เป็นความฝันของใครหลายคน แต่ก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือเงินลงทุนและการวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ บทความนี้ Miss Mamon จะพาคุณไปรู้จักกับทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปิดร้านเบเกอรี่ ตั้งแต่การคำนวณเงินลงทุน การเลือกรูปแบบร้าน ไปจนถึงเคล็ดลับการประสบความสำเร็จในธุรกิจ ผู้ประกอบการ (มือใหม่) ท่านใดที่กำลังสงสัยว่า เปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่ดี ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ห้ามพลาดบทความนี้เลย


ก่อนคำนวณเงินลงทุนเปิดร้านเบเกอรี่ ต้องรู้ก่อนว่าอยากเปิดร้านแบบไหน


ก่อนที่จะไปดูว่า เปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่ดี คุณควรที่จะเลือกรูปแบบร้านเบเกอรี่ที่ต้องการเปิดเสียก่อน เพราะจะส่งผลต่อเงินลงทุนและการวางแผนธุรกิจในขั้นตอนต่อไปมาก โดยรูปแบบร้านเบเกอรี่ที่นิยมมีดังนี้

  • ร้านขายเบเกอรี่แบบ Grab & Go : เน้นการขายสินค้าแบบซื้อกลับบ้าน ไม่มีพื้นที่นั่งรับประทาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการเริ่มต้นธุรกิจแบบเล็ก ๆ ก่อน
  • ร้านคาเฟ่ : เป็นการผสมผสานระหว่างร้านกาแฟและร้านเบเกอรี่ มีพื้นที่นั่งรับประทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าและมีงบประมาณในการลงทุนที่สูงขึ้น
  • ร้านเบเกอรี่โฮมเมด : เน้นการผลิตเบเกอรี่แบบทำเองที่บ้านหรือสถานที่ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะในการทำเบเกอรี่และต้องการเริ่มต้นธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
  • ร้านเบเกอรี่แบบ Food Truck : ร้านเคลื่อนที่ที่สามารถย้ายไปขายในสถานที่ต่าง ๆ ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจและไม่ต้องการลงทุนในค่าเช่าสถานที่
  • ร้านเบเกอรี่แบบ Pop-up Store : ร้านชั่วคราวที่เปิดขายในงานอีเวนต์หรือสถานที่เฉพาะกิจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองตลาดหรือสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก่อนเปิดร้านถาวร


เปิดร้านเบเกอรีลงทุนเท่าไหร่


เปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่นั้น หลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับรูปแบบร้านที่เราต้องการเปิด โดยจะมีต้นทุนที่ต้องคำนวณอยู่ 2 ค่าหลัก ๆ ได้แก่ 

ต้นทุนคงที่ (Fixed costs) เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกเดือน หรือทุกปี เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ 
ต้นทุนแฝง (Hidden Cost) เป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกซ่อนอยู่ในกระบวนการผลิต หรือการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง หรือค่าน้ำค่าไฟ 
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า เปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่ดี เรามีตัวอย่างการคำนวณเงินลงทุนเบื้องต้นในการเปิดร้านขนม 3 รูปแบบมาฝาก ลองนำไปปรับใช้ดูได้เลย


1. ร้านเบเกอรี่แบบรับขนมมาขาย


ต้นทุนคงที่

  • ค่าเช่าสถานที่ (ถ้ามี)
  • ค่าตกแต่งร้าน
  • ค่าอุปกรณ์ เช่น ตู้โชว์สินค้า เครื่องคิดเงิน

ต้นทุนแฝง

  • ค่าสาธารณูปโภค (น้ำ, ไฟ)
  • ค่าขนส่งสินค้า
  • ค่าบรรจุภัณฑ์


เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 50,000 - 200,000 บาท


สั่งเบเกอรี่ราคาส่ง เพิ่มกำไร ลงต้นทุน กับ Miss Mamon

2. ร้านเบเกอรี่แบบทำขนมขายเอง


ต้นทุนคงที่

  • ค่าเช่าสถานที่
  • ค่าตกแต่งร้าน
  • ค่าอุปกรณ์ครัว เช่น เตาอบ เครื่องผสมแป้ง
  • ค่าอุปกรณ์หน้าร้าน เช่น ตู้โชว์สินค้า เครื่องคิดเงิน

ต้นทุนแฝง

  • ค่าสาธารณูปโภค
  • ค่าวัตถุดิบ
  • ค่าแรงงาน
  • ค่าบรรจุภัณฑ์


เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 300,000 - 1,000,000 บาท

3. ร้านเบเกอรี่แบบคาเฟ่ ขายทั้งเค้ก ขนม และกาแฟ


ต้นทุนคงที่

  • ค่าเช่าสถานที่
  • ค่าตกแต่งร้าน
  • ค่าอุปกรณ์ครัว
  • ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟ
  • ค่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับที่นั่งลูกค้า

ต้นทุนแฝง

  • ค่าสาธารณูปโภค
  • ค่าวัตถุดิบ
  • ค่าแรงงาน
  • ค่าบรรจุภัณฑ์
  • ค่าการตลาดและโฆษณา


เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 500,000 - 2,000,000 บาท


วิธีตั้งราคาสินค้าให้ได้กำไร ไม่ขาดทุน


การตั้งราคาสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของร้านเบเกอรี่ โดยผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึง 3 ต้นทุนหลัก ๆ ดังนี้


3 ต้นทุนที่ต้องคำนวณให้ครบ


  • ต้นทุนค่าวัตถุดิบ : คำนวณจากราคาวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตเบเกอรี่แต่ละชิ้น
  • ต้นทุนค่าแรง : คำนวณจากค่าแรงของพนักงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและขาย
  • ต้นทุนแฝง (ค่าโสหุ้ย) : รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าการตลาด


ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนราคาสินค้าให้ได้กำไร


เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เรามาดูตัวอย่างการคำนวณต้นทุนสำหรับเบเกอรี่แบบง่าย ๆ กัน

เมนูขนมปังกระเทียมแฮม

  • ต้นทุนวัตถุดิบ : 15 บาท
  • ต้นทุนค่าแรง : 5 บาท
  • ต้นทุนแฝง : 3 บาท
  • รวมต้นทุน : 23 บาท

ราคาขายที่แนะนำ 35-40 บาท (กำไรประมาณ 52-74%)

เมนูขนมปังสังขยาใบเตย

  • ต้นทุนวัตถุดิบ : 12 บาท
  • ต้นทุนค่าแรง : 4 บาท
  • ต้นทุนแฝง : 2 บาท
  • รวมต้นทุน : 18 บาท


ราคาขายที่แนะนำ  30-35 บาท (กำไรประมาณ 67-94%)

ขาไก่ทรงเครื่อง 

  • ต้นทุนวัตถุดิบ : 20 บาท
  • ต้นทุนค่าแรง : 7 บาท
  • ต้นทุนแฝง : 4 บาท
  • รวมต้นทุน : 31 บาท


ราคาขายที่แนะนำ 45-50 บาท (กำไรประมาณ 45-61%)


7 ข้อควรทำก่อนเปิดร้านเบเกอรี่


การเปิดร้านเบเกอรี่ไม่ใช่เพียงแค่การทำขนมอร่อยเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการวางแผนและเตรียมการที่รอบคอบในหลายๆ ด้าน เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน Miss Mamamon ได้รวม 7 ข้อควรทำก่อนเปิดร้านเบเกอรี่มาให้แล้ว จะมีเรื่องอะไรที่ต้องให้ความสำคัญบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

1. วางแผนธุรกิจให้รอบคอบ


การวางแผนธุรกิจที่ดีเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จ ควรเริ่มจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าคุณต้องการขายเบเกอรี่ให้กับใคร เช่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงานออฟฟิศ หรือครอบครัว จากนั้นทำการวิเคราะห์คู่แข่งในพื้นที่ที่คุณจะเปิดร้าน ศึกษาจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละร้าน เพื่อนำมาปรับใช้กับร้านของคุณ สุดท้ายคือการคำนวณต้นทุนและงบประมาณอย่างละเอียด รวมถึงการประมาณการยอดขายและจุดคุ้มทุน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณมีความเป็นไปได้ในระยะยาว


2. เลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม


ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของร้านเบเกอรี่ ควรเลือกสถานที่ที่เข้าถึงง่าย มีการสัญจรไปมาของผู้คนอย่างหนาแน่น เช่น ใกล้แหล่งชุมชน สถานศึกษา หรือออฟฟิศ นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องที่จอดรถด้วย โดยเฉพาะหากร้านของคุณตั้งอยู่ในย่านที่มีการจราจรหนาแน่น การมีที่จอดรถเพียงพอจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขาย อย่าลืมศึกษากฎหมายและข้อบังคับในพื้นที่นั้นๆ ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถเปิดร้านเบเกอรี่ในบริเวณนั้นได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย


3. ให้ความสำคัญกับคุณภาพวัตถุดิบ


คุณภาพของวัตถุดิบเป็นหัวใจสำคัญของร้านเบเกอรี่ที่ประสบความสำเร็จ ควรเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ มีคุณภาพสูง และปลอดภัยต่อผู้บริโภค การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณได้รับวัตถุดิบที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงต้นทุนวัตถุดิบให้สอดคล้องกับราคาขาย เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ได้ในระยะยาว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของธุรกิจ


4. ออกแบบร้านให้น่าสนใจ


การออกแบบร้านที่ดึงดูดความสนใจเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้า ควรตกแต่งร้านให้สวยสะอาด มีบรรยากาศที่อบอุ่นและเชิญชวน การจัดวางสินค้าควรเป็นระเบียบ หาง่าย และน่าซื้อ ควรมีการจัดแสงที่เหมาะสมเพื่อเน้นความสวยงามของเบเกอรี่ นอกจากนี้ การสร้างมุมถ่ายรูปที่น่าสนใจภายในร้านจะช่วยให้ลูกค้าอยากมาเช็กอินและแชร์ภาพบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นการช่วยโปรโมทร้านไปในตัว


5. สร้างสรรค์เมนูที่โดดเด่น


การมีเมนูที่หลากหลายและโดดเด่นจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ ควรมีเมนูพื้นฐานที่เป็นที่นิยม เช่น ขนมปัง เค้ก และคุกกี้ แต่ก็ควรมีเมนูพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน อาจเป็นเบเกอรี่ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น หรือมีการนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่ ควรปรับปรุงเมนูอยู่เสมอตามเทรนด์และความต้องการของลูกค้า รวมถึงการมีเมนูตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นยอดขาย


6. ทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย


การทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ควรใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างเพจร้านและโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram และ Line Official Account โดยโพสต์ภาพสินค้า โปรโมชั่น และกิจกรรมของร้านอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การแจกใบปลิวหรือคูปองส่วนลดในพื้นที่ใกล้เคียงกับร้านก็เป็นวิธีที่ได้ผลดีในการดึงดูดลูกค้าในละแวกนั้น การจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ ก็เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้


7. บริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม


การบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยมเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ พนักงานควรมีความเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส และพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าอยู่เสมอ การบริการควรรวดเร็ว ไม่ให้ลูกค้าต้องรอนาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนี้ ควรรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของลูกค้าอย่างตั้งใจ เพื่อนำไปปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น การจัดการกับข้อร้องเรียนอย่างมืออาชีพและรวดเร็วจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว


สรุปบทความเปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนเท่าไหร่ดี


การเปิดร้านเบเกอรี่เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูง แต่ก็ต้องอาศัยการวางแผนและการเตรียมตัวที่ดี เงินลงทุนในการเปิดร้านเบเกอรี่อาจแตกต่างกันไปตามรูปแบบของร้าน ตั้งแต่ 50,000 บาทไปจนถึงหลายล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของธุรกิจ

สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงคือ การเลือกรูปแบบร้านที่เหมาะสมกับทุนและความสามารถ การคำนวณต้นทุนอย่างละเอียดเพื่อตั้งราคาขายที่เหมาะสม การเลือกทำเลที่ตั้งที่ดี การให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ การออกแบบร้านและสร้างสรรค์เมนูที่โดดเด่น การทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและการดำเนินธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ ร้านเบเกอรี่ของคุณจะมีโอกาสประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้แน่นอน

สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่วางแผนเปิดร้านเบเกอรี่แบบรับขนมมาขายเอง โดยลดความยุ่งยากในการทำขนมเอง การันตีด้วยรสชาติและเมนูที่ขายดี แล้วกำลังมองหาร้านเบเกอรี่ขายส่ง อบสดใหม่ทุกวัน รสชาติอร่อยถูกปาก สามารถสั่งซื้อกับ Miss Mamon ร้านมาม่อนเค้กสูตรต้นตำรับ และเบเกอรี่โฮมเมด ได้เลยที่ Line OA @missmamon หรือเบอร์โทรศัพท์ 094-545-1441 เรามีบริการเบเกอรี่ที่หลากหลายทั้งขนมปังคาว หวาน สุขภาพ หรือเมนูเจในกล่องบรรจุพร้อมขาย เพื่อให้นำไปติดโลโก้ร้านเอง เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้การดูแลอย่างดีที่สุดในงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้!






Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้