Last updated: 31 ต.ค. 2567 | 94 จำนวนผู้เข้าชม |
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น หนึ่งในสารอาหารที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งคือ "ไขมันทรานส์" ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "ตัวร้าย" ในวงการอาหารและโภชนาการ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าไขมันทรานส์คืออะไร มาจากไหน และส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง บทความนี้ Miss Mamon ร้านมาม่อนเค้กสูตรต้นตำรับและเบเกอรี่โฮมเมด จะพาคุณไปทำความรู้จักกับไขมันทรานส์อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีหลีกเลี่ยงและลดการบริโภคไขมันชนิดนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวเอง ตามไปดูกันเลย!
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นประเภทหนึ่งของไขมันที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของน้ำมันพืช โดยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial Hydrogenation) เพื่อให้น้ำมันมีความคงตัวมากขึ้น มีลักษณะกึ่งแข็งที่อุณหภูมิห้อง และมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น
ในทางเคมี ไขมันทรานส์เป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่อย่างน้อยหนึ่งพันธะในโครงสร้างโมเลกุล โดยอะตอมไฮโดรเจนที่อยู่รอบพันธะคู่นี้จะอยู่คนละด้านของโมเลกุล (Trans Configuration) ซึ่งต่างจากไขมันไม่อิ่มตัวทั่วไปที่อะตอมไฮโดรเจนจะอยู่ด้านเดียวกัน (Cis Configuration)
ไขมันทรานส์สามารถพบได้จาก 2 แหล่งหลัก ได้แก่
ไขมันทรานส์ที่มนุษย์สร้างขึ้นนี้ถือเป็นอันตรายมากกว่าไขมันทรานส์จากธรรมชาติ เนื่องจากมีปริมาณมากกว่าและมีผลเสียต่อสุขภาพที่ชัดเจนกว่า
การบริโภคไขมันทรานส์ในปริมาณมากและต่อเนื่องสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หลายประการ ดังนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า การบริโภคไขมันทรานส์ไม่ควรเกิน 1% ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน หรือประมาณ 2-2.2 กรัมต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ที่บริโภคอาหาร 2,000 แคลอรี่ต่อวัน
ไขมันทรานส์มักพบในอาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูปหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่ใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ยกตัวอย่างเช่น
การลดการบริโภคไขมันทรานส์และเพิ่มไขมันดีให้ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีสุขภาพที่ดี โดยวิธีกำจัดไขมันทรานส์ง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้
การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดการบริโภคไขมันชนิดนี้ ควรอ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียดก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially hydrogenated oils : PHO)
นอกจากนี้ควรลดการบริโภคอาหารแปรรูปและอาหารจานด่วน ซึ่งมักมีไขมันทรานส์สูง แทนที่ด้วยการทำอาหารเองที่บ้านโดยใช้วัตถุดิบสดและน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ
การเพิ่มการบริโภคไขมันดีหรือไขมันไม่อิ่มตัวสามารถช่วยทดแทนไขมันทรานส์ในอาหารของคุณได้ แหล่งของไขมันดีที่ควรเพิ่มในอาหาร ได้แก่
ไขมันเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยทดแทนไขมันทรานส์ แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำหนักและรักษาสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยในการจัดการระดับไขมันในเลือดได้อีกด้วย โดยแนะนำให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ร่วมกับการออกกำลังแบบเวทเทรนนิ่งเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ถ้าทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง รับรองจะช่วยให้หุ่นเฟิร์มกระชับและลดระดับไขมันในร่างกายได้แน่นอน!
การเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการบริโภคไขมันทรานส์และเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่ร่างกาย ผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยต่อต้านผลเสียจากไขมันทรานส์และสารพิษอื่นๆ ในร่างกายได้ โดยแนะนำให้รับประทานผักและผลไม้หลากสี อย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน โดยเน้นผักใบเขียว ผักและผลไม้ที่มีสีสดใส เช่น มะเขือเทศ แครอท ส้ม บลูเบอร์รี่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อื่นๆ
สำหรับใครที่เป็นสายของหวาน ชอบรับประทานเบเกอรี่ เค้ก แล้วกลัวเรื่องไขมันทรานส์ ไม่ต้องกังวลเลย สามารถรับประทานเบเกอรี่แสนอร่อยจากร้านขายส่งเบเกอรี่ Miss Mamon ได้เลย
ทุกเมนูของเราปราศจากไขมันทรานส์ (0% Trans Fat) เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ อบสดใหม่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น มาม่อนเค้กสูตรต้นตำรับ ขนมปังโฮมเมดหลากหลายเมนู ครบทั้งคาวหวาน ขนมเบรคเพื่อสุขภาพ จัดทำ Snack Box หรือเค้ก ก็สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ
ถ้าสนใจ สามารถสั่งซื้อโดยตรงที่ได้เลยที่ Miss Mamon หรือสั่งออนไลน์ผ่าน Line OA @missmamon หรือเบอร์โทรศัพท์ 094-545-1441 หรือสั่งผ่านช่องทาง Delivery ที่สะดวกได้เลย รับรองว่าจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้แน่นอน!
ไขมันทรานส์เป็นสารอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด การตระหนักรู้ถึงแหล่งที่มาและอันตรายของไขมันทรานส์เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการปกป้องสุขภาพของเรา การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง เพิ่มการบริโภคไขมันดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ล้วนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดผลกระทบจากไขมันทรานส์
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าอย่างยิ่งต่อสุขภาพในระยะยาว การเริ่มต้นด้วยการอ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียด เลือกซื้ออาหารอย่างชาญฉลาด และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยการกินทีละน้อย จะช่วยให้เราสามารถลดการบริโภคไขมันทรานส์และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน
31 ต.ค. 2567
29 ต.ค. 2567
31 ต.ค. 2567